มาดูกันครับว่าสระเด็กในโรงแรมมีกี่แบบ มีลักษณะอย่างไรบ้าง รู้ไว้เลือกแบบที่เหมาะกับคุณ
สวัสดีครับวันนี้เราจะมาพูดถึงรายละเอียดของเครื่องเล่นในแต่ละประเภทที่จะอยู่ในสวนน้ำกันนะครับ ช่วงนี้เราก็จะทยอยลงรายละเอียดเครื่องเล่นประเภทต่างๆ ไปทีละอย่างนะครับ เราจะมาเริ่มกันด้วยสระเด็กก่อน

Waterplay
อย่างแรกที่ Popular ที่สุดที่เราจะพูดถึงกันคือสระเด็ก ปกติสระเด็กที่เราใช้กันอยู่ในโรงแรมจะมีอยู่ 2 แบบนะครับ แบบที่ 1 เรียกว่าสระแบบ Waterplay เรียกว่าเป็น Shallow pool ก็คือหมายถึงสระน้ำตื้นๆ ที่มีน้ำมีเครื่องเล่นเด็ก อาจจะมีสไลเดอร์ตัวเล็กๆ หรือมีบ้านเด็กเล็กๆ ที่อยู่ในน้ำ สิ่งสำคัญของ Waterplay คือสระแบบนี้จะต้องมีน้ำอยู่ในสระและมีความลึกไม่มากนักไม่ควรจะเกิน 30 ซม. ที่ความลึกไม่มากนักส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องของความปลอดภัยของเด็กนี่แหละ ถ้าลึกเกิน 30 ซม. เมื่อไหร่จะไม่ดีแล้ว สมมุติเด็กประมาณสัก 3 ขวบ 4 ขวบเล่นสไลเดอร์แล้วเกิดหกล้มหน้าคว่ำลงมา 30 ซม. เป็นความลึกที่เด็กน้อยสามารถที่จะพลิกหน้าขึ้นมาและช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นเรื่องของความปลอดภัย จะสังเกตเห็นว่าเราเจอโรงแรมที่มีสระเด็กลึกประมาณ 40-50 ซม.ประมาณอย่างนี้ครับ อันนี้ค่อนข้างอันตรายนะ อีกอย่างคือน้ำที่ลึกประมาณ 30 ซม.ถ้าเราลงจากสไลเดอร์ความสูงประมาณ 1 เมตรถึงเมตรครึ่งก้นจะไม่กระแทกแล้ว สระแบบนี้จะรับลูกค้าได้เต็มที่อายุไม่เกิน 6-7 ขวบ โตกว่านี้จะไม่ค่อยชอบเล่นแล้วเพราะว่ามันไม่ค่อยสนุกสำหรับอายุของเขา เด็ก 7 ขวบนี่ค่อนข้างโตแล้ว เล่นในสระเด็กมันจะเหมือนแออัดไปหน่อย


เรื่องสไลเดอร์เดี๋ยวเราจะแยกไปพูดอีกประเภทหนึ่ง สไลเดอร์ที่ลงมาในสระเด็กจะสูงได้ไม่มาก ประมาณเมตรถึงเมตรครึ่งไม่เกินนั้น จะเป็นสไลเดอร์ไซส์พิเศษสำหรับใช้กับสระเด็กโดยเฉพาะ จริงๆ สไลเดอร์จะมีมาตรฐานนะครับ อย่างสไลเดอร์ที่เรา Reference อยู่จะเป็นมาตรฐานของยุโรป
Water Playground
สระเด็กแบบที่ 2 คือ Water Playground หรือที่เรียกว่า Zero pool ก็คือเป็นน้ำที่แทบจะไม่มีความลึกเลย เป็นน้ำแบบเรี่ยๆ พื้นแล้วก็ไหลลงไปหยุดใน Balance tank ที่อยู่ใต้พื้นอีกทีหนึ่ง Water Playground เป็นสายที่เหมาะกับเด็กเล็กๆ แล้วก็เน้นวิ่งไปวิ่งมาเหมือนกับสนามเด็กเล่น แต่ว่ามีน้ำอยู่นิดหน่อย แล้วก็มีน้ำกระเซ็นๆ Water Playground เหมาะกับสระที่มีความลึกเป็น 0 เลยหรือน้อยมากๆ เพราะจริงๆ เน้นเรื่องการวิ่ง การทำ Water Playground ข้อควรระวังอย่างหนึ่งก็คือการวิ่งมันทำให้เกิดการล้มได้ง่าย เพราะงั้นก็จะต้องมีพื้นที่มีความพิเศษหน่อย ต้องมีความนุ่ม เราก็จะเหมาะกับเด็กที่เล็กมากเต็มที่ก็ 4-5 ขวบ มากกว่านี้ก็จะไม่ค่อยเล่น Water Playground แล้ว เพราะไม่สนุกแล้ว ในการทำ Water Playground เราต้องพิจารณาว่าเรามีพื้นที่มากพอที่จะทำให้เด็กเขาวิ่งไปวิ่งมาได้ พื้นต้องมีความนุ่ม ไม่ลื่น ไม่ทำให้หกล้มและบาดเจ็บเพราะมันเป็นการวิ่งอยู่ในน้ำเปียกๆ มันก็จะมีการหกล้มอยู่เป็นช่วงๆ ล่ะ เพราะงั้นการสร้าง Water Playground ต้องโฟกัสไปที่พื้น


จะเห็นว่าแม้แต่สระเด็กก็มี 2 ประเภท ก็คือ Water Playground แบบเรียบๆ กับสันเด็กประเภท Shallow pool ที่มีความลึก 30 ซม. จะเห็นว่าสระเด็ก 2 ประเภทนี้มีความแตกต่างกัน เดี๋ยวคราวหน้าเรามาคุยกันเรื่อง Water Playground ว่าจะเด็กแบบนี้มีหน้าตาเป็นยังไง องค์ประกอบเป็นยังไง ส่วนในด้านของ Shallow pool นอกจากเรื่องของความลึกแล้วยังมีเรื่องของระบบกรองน้ำที่อยู่ในสระเด็ก Shallow pool จะต้องมีการกรองมากกว่าปกติเพราะว่าความหนาของน้ำมีน้อย อันนี้เดี๋ยวเราก็ลงรายละเอียดกันอีกครั้งในคราวหน้านะครับ ครั้งนี้ก็แค่นี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับ