ประเภทของเมืองท่องเที่ยวมีอะไรบ้าง จะทำธุรกิจสวนน้ำเลือกทำเลยังไง มีผลต่อโมเดลธุรกิจและการสร้างรายได้อย่างไร ไปดูกันครับ
สวัสดีครับ ก่อนหน้านี้เราพูดเรื่องเทคนิคกันมาเยอะแล้วนะครับ วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องธุรกิจกันนิดนึงนะครับ เพราะว่าเรามีลูกค้าหลายคนเลยที่ทําสวนน้ําที่ต่างจังหวัดนะครับ ทีนี้พอเรามอง สวนน้ําที่ต่างจังหวัด เราก็จะมีความคิดว่าด้วยประสบการณ์ของคนน่ะนะครับ ก็คือเราก็จะมีการไปเที่ยวสวนน้ําในกรุงเทพหรือในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ แต่ทีนี้พอเราไปสร้างสวนน้ําที่ต่างจังหวัดมันจะแตกต่างกันเพราะว่าอย่างงี้ครับ เริ่มต้นก่อนเลยเนี้ยเราจะต้องแบ่งเมืองของเรา เรียกว่าเป็นเมืองแล้วกันเนอะ แบ่งเมืองของเราเป็น 2 สองหลักๆ ก่อนนะครับ
เมืองท่องเที่ยว
ประเภทที่ 1 ก็คือเมืองที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองที่เป็นเมืองท่องเที่ยวคืออะไร? คือหมายถึงเมืองที่มีจํานวนนักท่องเที่ยว เข้ามาต่อปีเยอะๆ ถ้าเป็นไปได้ก็คือเข้ามาอย่างสม่ําเสมอใกล้เคียงกันทุกเดือน หมายความว่าช่วง low กับช่วง hign ไม่ต่างกันมาก ตัวอย่างเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยก็เช่น พัทยา ภูเก็ต หัวหิน ชะอํา จะเห็นว่าถ้าเกิดเรานิยามเมืองสองแบบ เมืองท่องเที่ยวเนี่ยก็คือเมืองที่มันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสม่ําเสมอ มาตลอดเลยนะครับ ฤดูไหนก็มีนักท่องเที่ยว อะไรประมาณนี้ แบบนี้จะเรียกว่าเมืองท่องเที่ยวนะครับ
เมือง resident
ประเภทที่ 2 ก็คือเมืองที่เขาเรียกว่า residentคือเมืองที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากนัก เป็นเมืองเงียบๆ ประชาชนก็อยู่กันเอง กลุ่มนี้จะมีเยอะ ครอบคลุมเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทยนะครับ เมืองท่องเที่ยวจะมีไม่เยอะ เพราะฉะนั้นเวลาเราไปมองสวนน้ําที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวแล้วเราคิดจะมาทําที่เมืองของเราที่เป็นเมือง resident อันนี้ต้องระวังมากนะครับ เดี๋ยวจะบอกให้ฟังว่าทําไมต้องระวัง
แต่มันมีเมืองประเภทนึงนะที่เราคิดว่า เอ๊ะ มันน่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยว เพราะเรารู้สึกว่าคนไปเที่ยวเยอะนี่ ทีนี้คําถามคือ แล้วเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงไหม? คําตอบก็คือต้องไปดูข้อมูล เราไม่สามารถจะประเมินมั่วๆ ได้ว่านี่คือเมืองท่องเที่ยวนะครับ เช่น เมืองที่มีนักท่องเที่ยวแค่เป็นบางเดือนอย่างเชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยวมั้ย คำตอบคือไม่ เพราะว่าจริงๆ เชียงใหม่ก็จะมีนักท่องเที่ยวแค่บางช่วงของปี เช่น ช่วงฤดูหนาวที่เยอะอะไรอย่างนี้ แต่ว่าถ้าเกิดอีกหน่อยมันมีการเปลี่ยนแปลง เช่น คนจีนมาเชียงใหม่ทั้งปี หรือมาปีละแปดเดือน อันนี้อาจจะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเต็มสตรีม
เคยได้ยินไหมครับว่าเชียงใหม่เป็นเมืองปราบเซียน คําถามคือทําไมคนทั่วไปคิดว่าเชียงใหม่เป็นเมืองปราบเซียนเวลาไปลงทุน เพราะว่าเมืองที่อยู่ตรงกลางกึ่งๆ เนี่ย คําว่ากึ่งๆระหว่างการเป็นเมืองท่องเที่ยวกับการเมืองไม่ท่องเที่ยวอย่าง อย่างเชียงใหม่เนี้ย นะครับ มันจะเป็นเมืองที่ยุ่งยากมาก เพราะว่าด้วยความที่คนเขามาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงฤดูหนาวใช่ไหม พอมาในช่วงฤดูหนาวปุ๊บ เขามาจากกรุงเทพ มาจากอะไรเนี่ย มาตรฐานในความคิดของสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ เขาก็คิดว่าเขาจะได้บริการแบบเดียวกัน สวนน้ําแบบเดียวกัน การเล่นแบบเดียวกันกับสวนน้ําอย่างที่เมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ก็คืออยากได้ใหญ่ๆ เครื่องเล่นไฮโซ อะไรประมาณอย่างนั้น เครื่องเล่นจากเมืองนอก แต่ว่าเอาเข้าจริงพอมันเป็นเมืองแค่กึ่งท่องเที่ยว หมายถึงปีหนึ่งอาจจะมีคนมาแค่ช่วงฤดูหนาวประมาณ 3-4 เดือนประมาณนี้ ก็ทําให้การท่องเที่ยวไม่เกิดจริงๆ แปลว่า รายได้ที่จะเกิดขึ้น มันไม่ต่อเนื่องนะครับ ทีนี้ตอนนี้เป็นตอนแรกของซีรีส์ธุรกิจแล้วกันเนาะ เราจะเริ่มจากกลุ่มนักท่องเที่ยวก่อนนะครับ อย่างแรกเลยเราแบ่งจังหวัดท่องเที่ยวออกมาเป็น 3 Level นะครับ
เมืองท่องเที่ยวแบบเต็มขั้น
จังหวัดกลุ่มที่หนึ่งเรียกว่าเมืองท่องเที่ยวแบบเต็มขั้น หมายความว่าเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจํานวนมาก มีโรงแรมเยอะ มีคนมาทํางานท่องเที่ยวเยอะ เช่น ภูเก็ต พัทยา หัวหิน สมุย อะไรประมาณนี้ พวกนี้คือเมืองท่องเที่ยวจริงจังนะครับ เป็นแหล่งรายได้หลักจากเมืองท่องเที่ยว สังเกตดูว่าเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะมีทะเลนะครับ ลองสังเกตดูเมืองไทยเนี่ยเมืองท่องเที่ยวจะเป็นเมืองที่ติดทะเลทั้งนั้นแหละ เมืองที่เป็นเมืองภูเขาจะไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวแบบสําคัญมาก เพราะอะไร? เพราะว่านักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ เช่น มาจากจีน มาจากยุโรป มาจากอะไร ซึ่งเขามีภูเขาเยอะแยะ เขาจะชอบทะเลมากกว่านะครับ มันก็มีโอกาสที่เขาจะ success ในเรื่องนี้มากกว่านะครับ
เมืองไม่ท่องเที่ยว
อันที่ 2 เมืองไม่ท่องเที่ยวเลย เมืองที่เป็นจังหวัดเล็กๆ เช่น นราธิวาส ร้อยเอ็ด ชลบุรี อ่างทองอะไรพวกนี้ ก็คือเป็นเมืองที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย ส่วนใหญ่จะเป็นแค่เมืองผ่าน ขับรถไปขับรถมาอะไรประมาณนี้
เมืองกึ่งท่องเที่ยว
อันที่ 3 ก็คือเมืองกึ่งท่องเที่ยว เช่น มันมีคนมาเที่ยวเป็นช่วงๆ เป็นเทศกาล มา Event เช่น เมืองบุรีรัมย์ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน อะไรประมาณนี้ สุพรรณบุรีก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้นะครับ
เพราะฉะนั้นเบื้องต้นเราจะแบ่งเมืองออกเป็น 3 เมือง ก็คือเมืองท่องเที่ยว เมืองกึ่งท่องเที่ยวและเมืองที่ประชาชนอยู่อาศัยเฉยๆ เพราะฉะนั้นการทำสวนน้ำสามารถทำได้ทุกที่ ทำได้ทุกจังหวัดแต่มีโมเดลธุรกิจในการคิดโปรเจค ในการหารายได้ที่ต่างกัน เดี๋ยวคราวหน้าเราจะมาเริ่มกันที่เมืองท่องเที่ยวก่อน เป็น Best case scenario นะครับ สวัสดีคร้าบ
สนใจงานสวนน้ำสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจของเราเลย : https://www.facebook.com/K2JDesign
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็ปหลักของเรา : https://k2jdesign.com/