ในเมืองท่องเที่ยวที่เน้นนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นหลัก จะสร้างโรงแรมอย่างไรให้ได้เปรียบคู่แข่ง แล้วจะสร้างรายได้ในรูปแบบใดได้บ้าง ไปดูกันครับ

สวัสดีครับวันนี้เราก็จะมาพูดกันถึงเมืองท่องเที่ยวภายใน เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวนั่นแหละ แล้วเราก็จะได้ยินว่าเมืองพวกนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว แต่เวลาที่เราไปในเมืองพวกนี้เขาจะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก ถ้าเทียบกับสัดส่วนของคนไทยนะครับ ไม่ใช่ว่าเดินไป 10 คน เจอต่างชาติ 7 คน คนไทย 3 คน ไม่ใช่แบบนั้น อันนั้นคือเมืองท่องเที่ยวที่เน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนเมืองพวกนี้จะเป็นเมืองที่เรียนนักท่องเที่ยวไทย เช่น หัวหิน เชียงใหม่ เชียงราย เขาใหญ่ อย่างน่านนี่นับไม่ได้นะครับ เพราะน่านจะมีคนเที่ยวเฉพาะช่วงหน้าหนาว
ทีนี้คำถามพื้นฐานเลยเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะๆ กับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไทยเยอะ อันไหนรายได้ดีกว่ากัน อันนี้ชัดเจนครับก็คือเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติเวลาที่เข้ามาเที่ยวไทย เขามาท่องเที่ยวในเวลาจำกัด เขาจะมาอยู่ 1 สัปดาห์ 2 สัปดาห์อะไรประมาณนี้ เขาก็ต้องรีบกินรีบใช้ เช้ามาเขาก็ต้องรีบไปเที่ยวอีกใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นเมืองท่องเที่ยวแบบนี้ spending per Head ก็จะสูงกว่าที่ท่องเที่ยวที่มีเฉพาะคนไทย spending per Head ก็จะลดลงมา เพราะเราไม่รีบ อาทิตย์หน้ามาใหม่ก็ได้ เทศกาลหน้ามาใหม่ก็ได้และเราก็รู้ว่าของอย่างนี้มันไม่ได้ราคาเท่านี้ อย่างข้าวมันไม่ควรจะราคา 200 มันควรจะราคา 30 บาท อะไรอย่างนี้ เรามีความสะดวกในการเดินทาง หาของกินอะไรต่างๆ มากกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ที่มีประสบการณ์ในระดับเดียวกันในประเทศไทย ถูกกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า spending per Head มันต่ำ
อันที่ 2 นักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทย แน่นอนว่าเราอยู่เมืองไทยเราก็ต้องทำงานถูกไหมครับ ลูกเราก็ต้องไปโรงเรียน เราไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะสามารถท่องเที่ยวต่อเนื่อง 7 วัน มันก็จะเป็นลักษณะมาเทศกาลหยุด 3 วัน 2 วัน การมาเป็นช่วงสั้นๆ อย่าง 3 วันเนี่ย มันก็จะมีลิมิตจำกัดว่าเราสามารถเที่ยวได้แค่ไหน มันก็จะเกิดการจำกัดอยู่ในเวลาของมันนั่นแหละ เช่น ขับรถไปครึ่งวัน ขับรถกลับครึ่งวัน สมมุติไปพัทยาขับรถไป 3 ชั่วโมง ขับรถกลับ 3 ชั่วโมง ก็คือหมดครึ่งวันเช้ากับครึ่งวันบ่ายไปแล้ว เพราะฉะนั้นการเป็นเมืองท่องเที่ยวภายในก็จะต้องมีการออกแบบช่วย รูปแบบหนึ่งของการออกแบบที่ช่วยได้มากๆ เลยคือการท่องเที่ยวที่ไม่ต้องไปไหนเลย ไม่ต้องเที่ยว คือการออกแบบโรงแรมให้มันมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ภายใน เช่น โรงแรมแห่งนี้มีการขี่ม้า เรายกตัวอย่างง่ายที่สุดนะครับ อย่างที่กาญจนบุรี แพริมน้ำมันดูธรรมดามากเลยนะครับ แพในแม่น้ำแควเนี่ย แต่ความเป็นจริงแล้วมันคือการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องออกจากแพเลย เขาสามารถเล่นน้ำ สามารถตกปลา สามารถล่องแพ พายคายัค อะไรอยู่ในแพได้ทั้งวันโดยไม่ต้องขับรถออกไปไหนก็ได้

เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า แม้แต่แหล่งท่องเที่ยวขนาดเล็กถ้ามันมีปัจจัยเอื้ออำนวย ก็สามารถที่จะมีกิจกรรมให้ลูกค้าทำ เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวแบบนี้ พวกโรงแรมนี่จะเหมาะกับเมืองท่องเที่ยวที่โฟกัสคนไทยเป็นลูกค้าสำคัญมากนะครับ เพราะว่าลูกค้าไม่ต้องออกไปไหนเลย แต่ถ้าเราไม่มีทรัพยากรธรรมชาติอย่างแม่น้ำแควเราจะทำยังไง? ง่ายที่สุดครับ วิธีที่ทำกันมากเดี๋ยวนี้ก็คือทำแหล่งท่องเที่ยวอยู่ในโรงแรมไปเลย เช่น การทำสวนน้ำในโรงแรม อย่าง Grande Centre Point Space อย่าง Centre Point prime อย่าง Centara Mirage คือลูกค้ามาที่นี่นอกจากมานอนเนี่ย ได้มาเที่ยวด้วย คือสามารถทำกิจกรรม เล่นสวนน้ำ เล่นสไลเดอร์ เล่นทะเลเทียมอะไรได้เยอะแยะภายในพื้นที่ตรงนี้เลย เพราะฉะนั้นเห็นไหมครับว่าได้เปรียบแล้ว ลูกค้าก็จะเกิดการตัดสินใจว่าฉันจะมาเที่ยวที่นี่ นอนโรงแรมปกติมีอาหารเช้า แล้วเช้ามาก็ต้องออกไปชายหาด ชายหาดก็คนเยอะ สายๆ ไปดูพิพิธภัณฑ์ ลูกก็ไม่ได้อยากดูอะไรอย่างนี้ หรือเย็นมาทุกที่ปิดแล้วเราจะเที่ยวที่ไหนต่อดี อย่างนี้นะครับมันก็จะเกิดปัญหา
สังเกตดูนะครับช่วงหลังๆ นี้คนไทยให้ความสำคัญกับการพาลูกเที่ยว หมายถึงการไปแบบ Family เพราะฉะนั้นกิจกรรมสำหรับเด็กเนี่ยสำคัญมาก การออกแบบสวนน้ำหรือ Activity Zone ในโรงแรม มันเวิร์คกับกลุ่มคนที่เขามาเป็นครอบครัว เมื่อเขามาเป็นครอบครัวแปลว่าอะไร? แปลว่าเขามามากกว่า 1 คน ห้องพักทั้งห้อง Family เด็ก อาหาร ก็จะสามารถถูกขายแบบเป็นแพ็คเกจครอบครัวได้ เพราะฉะนั้นแสดงว่ามีโอกาสที่สามารถสร้างรายได้ได้ 2 แบบ
แบบไม่ต้องขายตั๋วเพิ่ม
แบบที่ 1 คือประสบความสำเร็จมากลูกค้าแน่นมาก เราก็ไม่ต้องขายตั๋วเพิ่ม รายได้มาจากค่าห้องพัก แต่ห้องพักเราแพงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับโรงแรมในเกรดเดียวกัน เช่น ห้องโรงแรมอื่นขายห้อง 3,000 บาท เราสามารถขายห้อง 6,000 บาทได้

แบบขายตั๋วเพิ่ม
แบบที่ 2 คือจังหวัดเรามันไม่ได้พีคขนาดนั้น มันไม่ได้คนเต็มโรงแรมจนไม่สามารถให้คนนอกเข้ามาเล่นได้ เราก็สามารถขายตั๋วให้ลูกค้าที่ไม่ได้มาเช็คอินในโรงแรมได้ แต่อันนี้ต้องระวังมากนะครับเพราะว่า มีความเป็นจริงก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีการขายตั๋วให้กับลูกค้าภายนอก นั่นก็ย่อมหมายความว่าลูกค้าภายในจะไม่พอใจ อย่างที่ 2 คือลูกค้าไม่มีความจำเป็นต้องจองโรงแรมเราตั้งแต่แรก ค่อยมาซื้อตั๋ว walk in เอาก็ได้ใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นการสร้างโรงแรมที่มีสวนน้ำภายใน The Best คือไม่ให้ลูกค้าภายนอกเข้ามา มีเฉพาะลูกค้าภายในของเราเท่านั้น ซึ่งจริงๆ ทำได้ทุกจังหวัด เพราะเมื่อคุณทำแล้วคุณก็กลายเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในพื้นที่ของคุณ เพราะว่าคุณมีสวนน้ำเทียบกับโรงแรมอื่นที่ไม่มีสวนน้ำ

เดี๋ยวคราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าสวนน้ำในโรงแรมควรจะมีอะไรบ้าง แค่นี้ก่อนนะครับสวัสดีคร้าบ
สนใจงานสวนน้ำสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจของเราเลย : https://www.facebook.com/K2JDesign
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็ปหลักของเรา : https://k2jdesign.com/